Secret ritual : 108 bell rang [TH]

ในอดีตมีการลั่นระฆัง 108 ครั้ง ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
แต่ปัจจุบันนี้โดนสั่งห้ามโดยคำสั่งศาล จากปัญหาประท้วง
และต่อต้านจากผู้อยู่อาศัยรอบวัดต่างในญี่ปุ่น 
น่าเสียใจนะที่พวกเขาไม่สามารถอยู่ร่วมกับวัฒนธรรมโบราณได้ 

พักเรื่องเครียดไว้ก่อนมาที่ความคิดวิปริตดีกว่า 

อ่านกันไหม?

--------------------------------------------------------------------------------

เมื่อถึงวันส่งท้ายปีเก่า เหล่านักบวชมารวมตัวกันที่วัดในป่าลึก
บนยอดเขาที่ห่างไกลจากชุมชน
เพื่อร่วมประชุมสืบสานพิธีกรรม
ลั่นระฆัง 108 ครั้ง 

สะเดาะเคราะห์ และสืบชะตา ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง 

แม้การลั่นระฆังจะถูกสั่งห้ามแล้วจากพื้นที่ชุมชน
แต่ในพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้ ถือว่ายกเว้นได้ที่จะประกอบพิธีกรรม

นักบวชจากหลายที่เดินทางมารวมกันอยู่ในวัดต้นสังกัดแห่งนี้
ต่างสวมชุดเครื่องแบบขาว ครองเสื้อคลุมดำที่เรียบง่ายกันทั้งสิ้น

เมื่อพิธีใกล้เริ่มต้น เหล่านักบวชก็มาชุมนุมกันรอบหอระฆัง
และเจ้าคณะผู้เป็นประธานขึ้นกล่าวต้อนรับและเปิดงาน
พร้อมประกาศรายชื่อกลุ่มนักบวช 9 กลุ่ม ๆ ละ 12 คน
ซึ่งจะเป็นคนผู้ที่ลั่นระฆังในวันนี้คนละครั้ง รวมทั้งหมด 108 ครั้ง 

การลั่นระฆังนั้น จะใช้ไม้ตะลุมพุกที่โยงเชือก 11 เส้น 
ซึ่งแขวนไว้กับขื่อหอระฆัง โดยให้นักบวช 1 รูป 
และผู้ช่วยในกลุ่ม 10 รูปที่เหลือ ช่วยกันลั่นระฆัง 1 ครั้ง 
ทุก ๆ 5 นาที ในระหว่างที่นักบวชรูปที่ 12 จะทำการ
บริกรรมคาถาบทผาสุก ต้องหน้าผู้ร่วมพิธีทุกท่าน 
และให้ทำเช่นนี้สลับเปลี่ยนกันไป จนกว่าจะครบทุกคนในกลุ่ม

ขณะนี้เหลืออีก 1 ชั่วโมงก็ถึงเวลา 15:00 น. ซึ่งเป็นฤกษ์เริ่มพิธีแล้ว 
เจ้าหน้าที่พระลูกวัดจึงได้จัดเตรียมพื้นที่ และนำอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ออกมาตั้งในลาน พร้อมทั้งนำรูปสลักเทพอารักษ์ ที่จะเป็นองค์สักการะ
สำหรับพิธีกรรมวันนี้ออกมาด้วย ซึ่งรูปสลักนี้ เรียกเสียงฮือฮา
จากกลุ่มนักบวชที่มาร่วมพิธี ได้มากพอสมควร

เนื่องด้วยรูปสลักเทพอารักษ์ จะถูกห่อเก็บไว้อย่างดี 
และในปีหนึ่ง ๆ จะถูกนำออกมาประกอบพิธีเพียงครั้งเดียว
นับเป็นโอกาสดีที่จะได้ชม สำหรับทั้งนักบวชเก่าและนักบวชใหม่
ที่อาจยังไม่เคยเห็น เนื่องด้วยยังไม่เคยได้รับเชิญ
ให้มาร่วมพิธีกรรมลั่นระฆังฉลองปีใหม่มาก่อน

เมื่อรูปสลักถูกจัดวางกลางลานพิธีเรียบร้อย 
เจ้าหน้าที่จึงได้เรียนเชิญ ท่านเจ้าคณะประธานพิธีขึ้นกล่าวแนะนำ 
และท่านฯได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการแกะผ้าพันห่อรูปสลักออก 
เพื่อให้นักบวชทุกรูปได้ยลโฉม

รูปสลักเทพอารักษ์ ทำจากไม้แกะสลักสูง เมตร 
ในท่ายืนประทานพร ทอดสายตามองลงมายังพื้นเบื้องล่าง
มีศิริโฉมที่งดงาม และน่าเกรงขาม เป็นที่น่าชื่นชมยิ่งนัก

ทั้งที่มีความเก่าแก่มากกว่า 100 ปี แต่ด้วยการเก็บรักษาที่ดี 

และนำออกมาแสดงต่อสาธารณะแค่ปีละครั้ง 
จึงทำให้สภาพผิวเนื้อไม้ภายนอก ยังคงดีอยู่มาก

แต่ความน่าสนใจจริง ๆ หาใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอก... 
หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ภายในแก่นกลางนั้น ต่างหาก... 

--------------------------------------------------------------------------------

เจ้าคณะประธานพิธี ส่งมอบลูกกุญแจโบราณให้กับเจ้าหน้าที่ 
หลังจากเจ้าหน้าที่รับมอบลูกกุญแจนั้น จึงได้นำไปยังฐานรูปปั้น 
ก่อนเสียบกุญแจเข้าไปในร่องฐานบัว
และ
หมุนบิดทวนเข็มนาฬิกา รอบ จนได้ยินเสียงคลิกปลดสลักล็อก 

จากนั้นจึงหันมาพยักหน้าบอกเจ้าคณะประธานฯ

และท่านได้พยักหน้าตอบ เป็นสัญญาณให้ดำเนินการต่อ 

เจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้า ได้สั่งการให้ผู้ช่วยทั้งหมดช่วยกันประคองรูปสลัก
และทำการถอดชิ้นครึ่งหน้าออกจากฐาน...

รูปสลักนั้นแบ่งเป็น ส่วน ประกบกันไว้ด้วยร่องและกลไกสลักล็อก
เมื่อถอดชิ้นหน้าออกจะเห็นได้ว่าภายในนั้นกลวง และมีบางสิ่งถูกบรรจุเอาไว้ 

เป็นถุงผ้าสีน้ำตาลเข้ม ห่อหุ้มสิ่งที่อยู่ในถุงผ้านั้น 
ปรากฎเป็นรูปร่างคล้ายคน 

ปลายถุงถูกขมวดปมไว้ด้านบนเหนือศีรษะ 

และร่างนั้นมีห่วงเหล็กรัดรอบบริเวณลำคอไว้
ซึ่งถูกเกี่ยวโยงไว้ด้วยห่วงลวดสลิงอีกทีหนึ่ง

เจ้าหน้าที่แกะปมผ้าเหนือศีรษะออก พร้อมถลกถุงผ้าลง 
โดยมิได้ทำการถอดปลอกคอออกแต่อย่างใด 
จนถุงผ้าทั้งใบกองลงกับพื้น เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน...

เป็นชายศีรษะโล้น ตาและปาก ถูกรัดปิดด้วยผ้าแดง 

สวมชุดเครื่องแบบนักบวชกิโมโนยาวสีขาว ยืนอยู่ในท่าพนมมือ 

มือ-เท้าของเขา ถูกสวมถุงรัด และใส่ตรวนล็อกไว้ 

พร้อมทั้งตลอดร่างกาย ยังถูกพันธนาการด้วยเชือก อย่างแน่นหนา 

เสียงอื้ออึงดังขึ้นในหมู่นักบวชที่มาร่วมพิธีฯ
เมื่อร่างที่ถูกขังอยู่ในรูปสลัก ปรากฎให้เห็นกันอยู่ต่อหน้าเช่นนี้
บ้างก็รู้สึกตื่นเต้น... บ้างก็ชื่นชมในความกล้าหาญ...

เจ้าคณะประธานกล่าวถึงชายคนดังกล่าวว่า เป็น "ผู้อุทิศตนเป็นสื่อ" 

ให้พิธีกรรมนี้ดำเนินต่อไปได้อย่างสมบูรณ์ และขอให้นักบวชทุกท่าน
ช่วยกันสวดมนต์สรรเสริญ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ จะนำตัวเขาไปเตรียมพร้อม

เสียงสวดมนต์อย่างพร้อมเพรียง ดังขรมไปทั่วบริเวณ
เจ้าหน้าที่ปลดลวดสลิงออกจากปลอกคอเหล็ก 
และนำตัวชายผู้นั้นลงจากแท่นดอกบัว
เพื่อย้ายไปยังกลางลานใต้หอระฆัง 
อันมีโต๊ะแท่นขื่อคาที่ตระเตรียมไว้แล้ว

จากนั้นจึงจับตัวผู้อุทิศตน นอนคว่ำหน้าลงบนโต๊ะแท่น 

และครอบขื่อเหล็กล็อกเข้ากับปลอกคอ และข้อมือทั้ง ข้าง 

เจ้าหน้าที่ช่วยกันปลดเชือกที่พันธนาการร่างกายท่อนล่าง 
ตั้งแต่สะโพกถึงข้อเท้า และปลดโซ่ตรวนออก
เพื่อนำข้อเท้ามาล็อกไว้กับโครงขื่อ ในท่าโก้งโค้ง 
ขาทั้งสองข้างกางออกจากกันเป็นรูปตัว 

ขณะนี้ร่างกายของผู้อุทิศตนเป็นสื่อ ถูกตรึงไว้กับโต๊ะขื่อคา 
คอ, มือ และข้อเท้า ถูกครอบทับด้วยโครงเหล็กหนา 
พร้อมเสียบสลักล็อกอย่างแข็งแรง

นักบวชที่เข้าร่วมพิธิ ต่างจ้องมองการตระเตรียม อย่างไม่วางตา 

สังเกตทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหวของสื่อฯตนนี้ 
ที่ขยับดิ้นรนอย่างอ่อนแรง กลางลานพิธีนั้น

--------------------------------------------------------------------------------

เจ้าคณะประธานฯ ประกาศสดุดี "ผู้อุทิศตนเป็นสื่อ" ในครั้งนี้ 
ถึงความกล้าหาญ และความอดทน 
ทั้งได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มข้น เพื่อหน้าที่ในวันนี้ 
และขอให้พยายามอดทน เพื่อให้พิธีกรรมลุล่วงไปด้วยดี

...ก่อนที่จะส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่มารับมอบเครื่องพันธนาการปลุกเสก

จากกองพิธีการนำมาเปลี่ยนให้กับสื่อฯตนนั้น 

เครื่องพันธนาการที่เจ้าหน้าที่ได้รับมานั้น ประกอบด้วย 

     1. เชือกขาว-แดง : ที่จะไว้ใช้สำหรับมัดร่างกายของสื่อฯ 
     ติดกับโต๊ะแท่นและขื่อคาอีกชั้น 

     2. เครื่องรัดอุดปาก รูปองคชาตแบบยางสีดำ ยาว10 cm. 
     พร้อมสายป้อนของเหลว และปั้มพองลม เพิ่มความกระชับ 
     ซึ่งมีสายรัดศีรษะ ที่สามารถคล้องกุญแจล็อกได้

     3. เครื่องปลอกสายสวนองคชาต : เพื่อช่วยในการถ่ายเทของเหลว
     ออกจากตัวสื่อฯ  ระหว่างการร่วมพิธีที่ยาวนานในวันนี้ 

     4. น้ำยาสูตรลับ : ที่จะช่วยให้สื่อฯได้ตื่นตัว และมีกำลังอดทนต่อหน้าที่

เจ้าหน้าที่ใช้เชือกขาว-แดง พันรัดตัวสื่อฯกับแท่นอย่างแน่นหนา 
ดูยากที่จะขยับดิ้นหลุดได้ จากนั้นก็ได้ทำการแกะผ้ารัดปากเดิมออก 
พร้อมกับดึงก้อนผ้าชุ่มน้ำลายที่อุดไว้ภายในปากออกมาด้วย

ซึ่งในขณะนั้นเอง ผู้อุทิศตนเป็นสื่อได้พยายามพูดออกมา 
ด้วยเสียงที่แหบแห้งแผ่วเบา....


    ไม่เอา...แล้ว.... ไม่ไหว....แล้........ช่วย...ด้ว....”  

แต่ยังไม่ทันจบประโยค เครื่องรัดอุดปากรูปองคชาต
ก็ถูกยัดเข้าไปในปาก สกัดการพูดของเขา

เจ้าหน้าที่จัดเครื่องรัดปากให้กระชับ ปรับสายรัด 
และคล้องแม่กุญแจเล็กลงในห่วงหัวเข็มขัดล็อก เป็นที่เรียบร้อย 
ก่อนที่จะบีบปั๊มลม เพื่อให้องคชาตยาง พองคับในปาก 
จนผู้อุทิศตนเป็นสื่อ ไม่สามารถออกเสียงได้อีก...
และได้ทำการต่อท่อสายป้อนของเหลว เข้ากับขวดน้ำ

ที่มีวาล์วจ่ายน้ำถูกปรับความถี่ที่พอเหมาะ เพื่อไม่ทำให้สำลัก 

ชุดกิโมโนขาวของผู้อุทิศตนเป็นสื่อ ถูกจับแหวกเปิดช่วงเอว 
เผยให้เห็นผ้าเตี่ยวสีขาวอีกชั้น เจ้าหน้าที่จึงทำการแก้ผ้าเตี่ยวออก 
จนเห็นกรงนกเขาสเตนเลสที่สวมครอบองคชาต 
และรัดพวงอัณฑะของผู้อุทิศตนอยู่ 

เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องถอดเครื่องพันธนาการส่วนนี้ออกด้วย 

เพื่อเปลี่ยนเป็นปลอกพร้อมสายสวนองคชาต 
สำหรับการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ และสืบชะตานี้

ระหว่างที่ปลอกและสายสวน ถูกสวมสอดใส่อยู่นั้น 
ผู้อุทิศตนเป็นสื่อ ก็ส่งเสียงร้องคราง และพยายามดิ้นรน 
คล้ายมีความเจ็บปวด แต่ก็สงบลงได้ในเวลาไม่นาน 
หลังจากแพทย์สนามได้นำเครื่องหอมพิเศษมาให้ดม 
เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการสวนองคชาต และสวมปลอกรัดท่อนลำ
จนมั่นใจว่าจะไม่สามารถหลุดออกมาได้แล้ว 
จึงได้ต่อท่อสายสวน ทิ้งปลายลงในโถแก้วที่รองรับอยู่เบื้องล่าง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ถลกกิโมโนขาวของผู้อุทิศตนขึ้น 
มารวบไว้ที่เอวด้านหลัง เปิดให้เห็นบั้นท้ายเปลือยเปล่า
และทางเจ้าหน้าที่ก็ใช้มือจับดึงจุกอุดทวารที่ถูกเสียบคาไว้ออก

จุกนี้มีขนาดใหญ่ และยาวพอประมาณ คาดว่าจะถูกเสียบไว้นานพอควรแล้ว
เพื่อขยายรูทวารให้สะดวกสำหรับงานพิธี

แพทย์สนามร่วมกับเจ้าหน้าที่ช่วยกันตรวจสอบ และทำความสะอาดรูทวาร
ของผู้อุทิศตนเป็นสื่ออีกครั้ง และเมื่อดำเนินการเรียบร้อย 
เจ้าหน้าที่และแพทย์สนาม ก็แยกย้ายกันออกจากลานพิธี
ไปนั่งเตรียมพร้อมอยู่ประจำฐานด้านข้างหอระฆัง

--------------------------------------------------------------------------------

หน้าที่ต่อไปเป็นส่วนของโฆษกพิธีกร 
ทำการประกาศเชิญนักบวชกลุ่มที่ เข้าประจำที่ 
เพื่อจะทำการลั่นระฆังแรกในเวลา 15.05 
นักบวช รูป จะประจำการที่เชือกเส้นหลักของไม้ตะลุมพุก
และนักบวชอีก10 รูป จะถือเชือกช่วยประคองอีก 10 เส้นตามลำดับ

ส่วนนักบวชรูปที่ 12 นั้น จะเข้าประจำตำแหน่ง 
ที่ด้านท้ายของผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯ และในขณะนี้ 
ท่านนักบวชกำลังรับผ้าโพกหน้าจากเจ้าหน้าที่
ซึ่งที่ผ้าโพกหน้าจะมีตัวเลขภาษาญี่ปุ่นเขียนกำกับไว้ด้วย
และชิ้นนี้ก็เป็นลำดับที่  

นักบวชรูปที่ 12 นำผ้ามาโพกพันปิดบังใบหน้าครึ่งล่าง 
ปิดรัดจมูกและปาก จนตึงแน่นเป็นสันนูน 
ก่อนที่จะหันมาทำความเคารพเจ้าคณะประธานฯ 
และเริ่มพนมมือสวดมนต์บทคาถาผาสุก 

จากนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่งลูบคลำบริเวณเป้าของตนเอง 
ระหว่างบริกรรมไปด้วย ไม่นานนักนักบวชรูปที่ 12 นั้น 
ก็แหวกเปิดกิโมโนขาว-ดำ ของตนเอง 
และงัดเอาองคชาตที่กำลังแข็งชูชัน หัวเต่งตึง
ออกมาปรากฏต่อสายตาผู้มาร่วมพิธีทั้งหมด 

เจ้าหน้าที่ข้างโต๊ะแท่น ได้ชโลมน้ำยาหล่อลื่นให้
จนทั่วองคชาตของนักบวชที่ 12 แล้ว 
จากนั้นท่านนักบวชก็ขยับตัวเดินเข้าใกล้
พร้อมกับจับองคชาตของตนจ่อที่รูทวารของผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯ
และดันหัวและท่อนลำแทรกผ่านเข้าไปในรูทวารนั้น 

ท่ามกลางเสียงฮือฮาของนักบวชอื่น ๆ ที่มาร่วมงาน 
ซึ่งบางส่วนเริ่มบริกรรมคาถาผาสุก และนักบวชที่เหลือ
ก็รีบบริกรรมตามอย่างพร้อมเพรียง

ในขณะเดียวกันนั้นนักบวชที่ 12 ก็รีบทำหน้าที่ของตน 
ด้วยการขยับดันตัวและโยกเอว แทงท่อนลำองคชาต
เคลื่อนที่เข้า-ออกภายในรูทวารของผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯ 
อย่างเป็นจังหวะ และเร่งความเร็วขึ้นตามความกระสันต์
จนความรู้สึกเสียวสะท้านที่แล่นปราดไปทั่วสันหลัง
กล้ามเนื้อก้นหดรัด และท่อนลำองคชาตเกร็งกระตุก 
ฉีดน้ำรักเข้าสู่ร่างกายของผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯ ผ่านรูทวาร
จนล้นทะลักไหลเยิ้มหยดออกมา

นักบวชรูปที่ 12 ร้องเสียงดัง หลังเสร็จสมอารมณ์หมาย
อันเป็นสัญญาณให้นักบวช 11 รูปที่เหลือช่วยกันลั่นตีระฆังได้
.....ก๊องงงงง

บัดนี้ ระฆังแรกได้ถูกลั่นตีออกไปแล้ว 
ตามกำหนดการต่อไปคือระฆังครั้งที่ และครั้งต่อ ๆ ไป
จะถูกลั่นตีทุก ๆ นาทีจนครบ 108 ครั้ง 
ในเวลาเที่ยงคืนของวันเริ่มต้นปีใหม่พอดี 

ซึ่งในทุก ๆ 5 นาทีนี้ นักบวชในกลุ่มที่เป็นผู้ลั่นระฆังทุกรูป 
จะต้องสลับกันมาบริกรรมคาถาผาสุก ต่อหน้าผู้มาร่วมพิธีทั้งหมด
และปฏิบัติกามกิจหลั่งน้ำแห่งความสุขใส่รูทวารของผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯ 
จนกว่าจะครบจำนวนคน ซึ่งก็จะนับได้ทั้งหมดประมาณ 9 ชั่วโมง
สำหรับการดำเนินพิธีกรรมลั่นระฆัง 108 ครั้ง เพื่อสะเดาะเคราะห์
และสืบชะตา ต้อนรับปีใหม่ในครั้งนี้

ส่วนผู้อุทิศตนเป็นสื่อนั้นทางแพทย์สนามและเจ้าหน้าที่จะคอยดูแล 
ด้วยยาสูตรลับ ที่จะทำให้คงสติรับรู้ และมีสภาพพร้อมรองรับความสุข
ของตัวแทนนักบวชทั้ง 108 รูป ไปจนกว่าจะจบพิธี

เรื่องเสียงร้องทรมาณของผู้อุทิศตนเป็นสื่อนั้น ก็ไม่น่าห่วงอะไร 
เพราะด้วยเครื่องรัดที่อุดปากไว้สามารถป้องกันได้อยู่แล้ว 
หากจะมีเล็ดลอดให้ได้ยินบ้าง ก็คงช่วยเสริมให้นักบวชทั้ง 108 รูป
มีความกระสันต์สุข กับการปฏิบัติกามกิจยิ่งขึ้น

สำหรับเรื่องร่างกาย ทางแพทย์สนามก็เตรียมยาสมานแผลสด
ยาลดอาการบวมอักเสบจากการเสียดสี ชนิดออกฤทธิ์ไว
ขนานพิเศษไว้พร้อมสรรพ

หลังจากที่การลั่นระฆัง 108 ครั้งจบลงแล้ว 
ผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯ จะถูกปลดจากแท่นขื่อคาพิธี 
แต่จะไม่ได้รับการถอดเครื่องรัดปาก กับปลอกสายสวนองคชาตออก
และจะได้รับการเสียบจุกอุดทวาร กลับเข้าที่เดิม 
ก่อนที่จะนำตัวไปล่ามโซ่ตรวน สวมถุงผ้าครอบตามไว้เดิม

ในระหว่างนั้นเจ้าคณะประธานฯ ก็ประกาศเชิญชวนให้นักบวชที่มาร่วมพิธี
แต่มิได้เป็นตัวแทนลั่นระฆังทุกรูป ปฏิบัติกิจสำเร็จความใคร่ 
หลั่งน้ำแห่งความสุขให้เปียกชุ่มผ้าเตี่ยวของตนเอง 
และถอดส่งผ้าเตี่ยวเหล่านั้นให้เจ้าหน้าที่ 
เพื่อที่จะได้นำไปทำเป็นเครื่องพันธนาการ 
ห่อพันรอบตัวผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯที่อยู่ในถุงผ้าอีกชั้นหนึ่ง

ก่อนที่ผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯ จะถูกนำตัวไปเก็บขังไว้ 
ในรูปสลักเทพอารักษ์เช่นเดิม เพื่อให้ได้บำเพ็ญตนต่อไป

.....เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี ขอให้ทุกท่านมีความสุขในปีใหม่นี้
และพบกันใหม่ในพิธีส่งท้ายปีในครั้งต่อไป 
เจ้าคณะประธานพิธีกล่าวปิดท้าย....


--------------------------------------------------------------------------------

...แต่สิ่งที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในพิธีก็มีอยู่เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการได้มาของผู้อุทิศตนเป็นสื่อฯ นั้น 
ซึ่งจะถูกคัดเลือกในทางลับ โดยทำการเลือกจาก
กลุ่มนักบวชที่ร่วมลั่นระฆังในปีก่อนหน้านั้น คัดจาก 108 
เลือกออกมาเพียง 1 รูป เพื่อจะถูกนำมาเก็บตัวอย่างเข้มข้น
เป็นเวลาเกือบครึ่งปี ก่อนพิธีครั้งต่อไปจะเริ่มต้น 
โดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าจู่ ๆ ก็จะต้องกลายมาเป็นผู้อุทิศตนคนใหม่


และยังมีข้อกังขาในเรื่องราวหลังจากนี้ เมื่อพิธีกรรมลั่นระฆังจบลง 
และผู้อุทิศตนฯถูกเก็บบรรจุกลับในรูปปั้นโบราณแล้ว 
ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อ? 

เพราะเมื่อถึงครั้งต่อไปที่รูปสลักโบราณถูกนำออกมาอีกครั้ง 
ก็จะมีผู้อุทิศตนฯ คนใหม่อยู่ในนั้นเสมอ....ก็นั่นสินะ

...แล้วคนก่อนหน้าเหล่านั้น ไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ?

จะว่าไป... ที่หอสักการะของวัด ก็จะมีรูปปั้นเทพสร้างใหม่
มาประดิษฐานเพิ่มอยู่ตลอดทุกปีนี่นา

....หรือว่า!!!

จบ.--------------------------------------------------------------------------------


เรื่องนี้ยาวหน่อยนะครับ วิปริตดีไหม? 
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ 

การมาอยู่ที่ Blogger เนี่ย เวลาจะ Comment หรือดู Content 18+ 
มันจะลำบากหน่อยที่ต้องใช้ Google account ร่วมด้วย

ซึ่งถ้าไม่สะดวกจะให้ Comment อันนี้ผมก็เข้าใจนะครับ
ขอให้ท่านมีความสุขในการอ่าน และปลดปล่อยตัวเองได้หลังจากการอ่าน

ผมก็มีความสุขที่ได้เขียนแล้วครับ

** ส่วนเรื่องภาพประกอบ ถ้ามีโอกาสผมจะวาดประกอบเรื่องนี้นะครับ แต่มันจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย 

Comments

  1. สุดยอดครับผม ติดตามผลงานเรื่อย ๆ ครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณครับ ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ

      Delete
    2. ชอบตรงที่ให้บรรดานักบวชร่วมกันชักว่าวแตกใส่ผ้าเตี่ยวตัวเองนี่แหละครับ อ่านแล้วเงี่ยนตามสุดๆ 555555

      Delete

Post a Comment

Kindly talk to us sometime, woulf be very appreciated. Thank you for visit us.